การออกแบบขอบข่ายการรับรองห้องปฏิบัติการอย่างมีคุณภาพตอนที่ 1

การออกแบบขอบข่ายการรับรองห้องปฏิบัติการอย่างมีคุณภาพตอนที่ 1

คุณเคยได้รับคำถามเหล่านี้จากลูกค้าหรือไม่?

     •  ห้องแล็บได้รับการรับรองตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025 หรือไม่?

     •  ห้องแล็บมีความสามารถดำเนินการตามขอบข่ายที่ลูกค้าต้องการหรือไม่?

     •  ห้องแล็บสามารถให้บริการสอบเทียบหรือทดสอบตามความต้องการได้หรือไม่?

     •  ห้องแล็บใช้วิธีการใดในการดำเนินการสอบเทียบหรือทดสอบ?

          การตอบคำถามเหล่านี้อย่างครบถ้วนถือเป็นกุญแจสำคัญในการรักษามาตรฐาน ISO/IEC 17025 และยังสะท้อนให้ลูกค้าเห็นถึงความสามารถของห้องแล็บ อย่างไรก็ตาม ห้องแล็บหลายแห่งมักมองข้ามความสำคัญของการปรับปรุงขอบข่ายการรับรอง จึงเพียงแค่จัดทำขอบข่ายตามความสามารถที่มี และส่งให้หน่วยงานรับรอง โดยไม่พิจารณาว่าขอบข่ายนั้นตอบโจทย์ความสามารถของแล็บและต้องการของลูกค้ามากน้อยเพียงใด และที่สำคัญอาจจะต้องมาตามแก้ไขข้อบกพร่องที่ไม่แล็บอาจไม่ได้ต้องการขอบข่ายนั้นจริง ๆ อีกด้วย 

การออกแบบขอบข่ายการรับรองที่ดี ไม่เพียงแต่ช่วยยืนยันคุณภาพและมาตรฐานของห้องแล็บ แต่ยังสามารถเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพ ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและเพิ่มยอดขายได้ หากขอบข่ายการรับรองของคุณไม่สามารถตอบคำถามสำคัญเหล่านี้ได้ นั่นอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณสูญเสียลูกค้า

ในบทความนี้ เราจะนำเสนอขั้นตอนง่ายๆ 5 ขั้นตอนที่จะช่วยให้คุณพัฒนาขอบข่ายการรับรองให้มีคุณภาพมากขึ้น พร้อมทั้งแหล่งข้อมูลที่มีประโยชน์ในการปฏิบัติตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025 อย่างครบถ้วน

ประสบการณ์ของผู้เขียน

เมื่อครั้แรกที่ผู้เขียนเข้ามาดูแลโปรแกรมการสอบเทียบในห้องแล็บที่ได้รับการรับรอง ผู้เขียนเริ่มจากงานการอัปเดตขอบข่ายเดิม โดยไม่ได้เพิ่มความสามารถใหม่หรือพารามิเตอร์ใหม่ เพียงแค่ปรับค่าพารามิเตอร์ให้เหมาะสมกับเครื่องมือที่มีอยู่ ทำให้การทำงานในช่วงนั้นไม่ซับซ้อนมากนัก

อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลาที่ต้องเพิ่มความสามารถในการสอบเทียบใหม่และเครื่องมือใหม่ ความท้าทายก็เริ่มเกิดขึ้น ผู้เขียนต้องเลือกเครื่องมือที่เหมาะสม กำหนดพารามิเตอร์ต่างๆ รวมถึงช่วงการวัด ซึ่งการตัดสินใจแต่ละครั้งกลายเป็นเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อน

แม้จะศึกษากฎเกณฑ์จากหน่วยงานรับรองแล้ว แต่ผู้เขียนยังพบว่าไม่สามารถตอบสนองความต้องการทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์ สุดท้ายจึงหันไปดูตัวอย่างขอบข่ายการรับรองจากห้องแล็บอื่นๆ ที่มีลักษณะคล้ายกัน ซึ่งช่วยให้เข้าใจมากขึ้นและนำมาปรับใช้ได้บ้าง แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ผู้เขียนพบว่าขอบข่ายการรับรองของห้องแล็บตนเองยังไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในช่วงนั้น ห้องแล็บได้รับโทรศัพท์จากลูกค้าจำนวนมากที่สอบถามเกี่ยวกับความสามารถในการสอบเทียบและรายละเอียดต่างๆ แม้ว่าผู้เขียนจะตอบคำถามได้ แต่การที่มีการโทรสอบถามบ่อยๆ ก็ทำให้กระบวนการทำงานล่าช้า

ผู้เขียนจึงตัดสินใจปรับรูปแบบการทำขอบข่ายการรับรองใหม่ โดยเริ่มจากการจดบันทึกความต้องการและคำถามที่ลูกค้ามักถามบ่อยๆ แล้วนำข้อมูลเหล่านั้นมาปรับปรุงขอบข่ายให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น วิธีนี้ไม่เพียงช่วยลดการรับรองขอบข่ายที่ไม่จำเป็น แต่ยังช่วยลดภาระงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ ในบทความต่อไปเราจะมาลงรายละเอียดการออกแบบขอบข่ายการรับรองห้องปฏิบัติการอย่างมีคุณภาพตอนที่ 2 ต่อไปครับ

บทความในซีรีย์

     • การออกแบบขอบข่ายการรับรองห้องปฏิบัติการอย่างมีคุณภาพตอนที่ 1

     • การออกแบบขอบข่ายการรับรองห้องปฏิบัติการอย่างมีคุณภาพตอนที่ 2